รีวิวหูฟัง JBL TUNE FLEX เสียงกลางชัด เบสแน่น
รีวิวหูฟัง JBL TUNE FLEX เสียงกลางชัด เบสแน่น
ดีไซน์
เคสใส่หูฟัง
ขึ้นชื่อว่าแบรนด์ขวัญใจวัยรุ่นทั้งที เรื่องดีไซน์ต้องไม่ธรรมดา
ตัวเคสมาในลักษณะกระดองเต่าทรงสี่เหลี่ยมที่มุมจะโค้งมน
วัสดุทำมาจากพลาสติก ด้านหน้าสลักเป็นโลโก้ JBL ด้านล่าง
มีพอร์ต USB-C ส่วนด้านหลัง สกรีนชื่อรุ่นไว้นะครับ JBL TUNE
แต่ที่ส่วนตัวผมชอบมาก ๆ คือการเลือกจุดสลักชื่อโรงงาน บริเวณ
เกือบกึ่งกลางด้านหลัง มันดูอาร์ตมาก ๆ ฟีลเหมือนเป็นรหัสลับที่ดี
ไซน์เก๋ ๆ เลย
จุดเปิดกล่องมีจะแถบเฉียง 3 ขีดสำหรับแสดงแบตเตอรี่ของหูฟังนะครับ
พอเปิดขึ้นมาก็จะเจอหูฟังเสียบอยู่ในส่วนบอดี้ของเคส ส่วนหลังฝาปิด
ก็จะมีการสกรีนมาตรฐานต่าง ๆ ที่ JBL TUNE FLEX รองรับเอาไว้
ตัวหูฟัง
ดีไซน์ได้เท่มาก! ก้านเป็นแท่งตรงยาวปลายโค้งมน ด้านในมีการสลัก
บอกไว้ว่า R หรือ L ส่วนด้านนอกมีการสกรีนโลโก้แบรนด์ไว้เช่นเดิม
เพิ่มเติมมี จุดเล็ก ๆ ไว้แสดงไฟสถานะด้วยครับ เติมความเก๋ได้ดี
เลยทีเดียว
กล่องใส่จุกหูฟัง
สิ่งที่ชอบมาก ๆ ของ JBL TUNE FLEX คือมีกล่องใส่จุกหูฟังมา
ให้ด้วยครับ ด้วยสไตล์หูฟังที่เป็นได้ทั้ง In-Ear และ Ear-Bud ในตัว
ทางแบรนด์คงกลัวว่าเราจะทำจุกหูฟังหาย เลยดีไซน์กล่องสำหรับ
ใส่จุกมาให้เราโดยเฉพาะ โดยข้างในก็จะใส่ได้ทั้งหมด 3 คู่
ก็ให้มาพอดีกับจำนวนจุกที่เหลือเมื่อไม่ได้ใช้ครับ
การใช้งาน
การสวมใส่
ด้วยตัวหูฟังที่มีน้ำหนักเบา ทำให้การสวมใส่เลยสบายหูครับ ไม่ได้
รู้สึกว่ามีอะไรมาถ่วงหูไว้ การสวมใส่ในแบบ In-Ear ตอนแรกอาจจะ
ไม่ชินเพราะแม้จะเป็นจุกแบบใส่ลงไปในหู แต่ด้วยดีไซน์ที่ต้อง
สามารถเป็นในหูแบบ Ear-Bud ได้ด้วย เลยทำให้ตัวก้านจุกไม่ลึก
เท่ากับหูฟัง In-Ear ทั่วไป สวมใส่ลงไปอาจจะรู้สึกว่าจุกไม่ได้เข้าไปในหู
แต่พอใช้ไปเรื่อย ๆ ก็จะชินครับ
ส่วนจุก Ear-Bud ก็คือเอียร์บัดดี ๆ นี่แหละ (หัวเราะ) มองด้วยตา
รู้สึกว่าพอใส่จุกแบบเอียร์บัดแล้วดูเข้ากับตัวหูฟัง JBL TUNE FLEX
มากกว่า ความเห็นส่วนตัวอาจจะพูดได้ว่า “โดยธรรมชาติ
JBL TUNE FLEX คือหูฟังเอียร์บัดที่สามารถเปลี่ยนจุกได้
มากกว่าที่จะเป็นหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้ทั้ง 2 ฟังก์ชัน”
เสียง
การใช้ในโหมด In-Ear
ในการฟังแบบอินเอียร์ แน่นอนว่าย่านเบสก็จะโดดเด่นตามสไตล์
JBL ที่จะออกหนา ๆ มวลใหญ่ ๆ เสียงกลาง – สูง ไม่ได้สว่างไสว
แต่ฟังชัด ไม่ได้ถูกบดบดบังด้วยเบส ซาวด์สเตจแม้ไม่ได้กว้างมาก
แต่หากตั้งใจฟังก็จะแยกได้ว่าชิ้นใดอยู่ตรงไหน เสียงคอรัส
หรือไลน์ประสานต่าง ๆ ก็ไม่ได้ถูกกลบจนฟังไม่ออก และเหมือน
JBL จะรู้ดีว่า TUNE FLEX สเตจไม่ได้กว้าง เลยฉลาดสร้างสรรค์ด้วย
การทำให้ทุกชิ้นอยู่ในระยะซัปพอร์ตกันไปเลย ผลคือเสียงของ
JBL TUNE FLEX เลยออกมาแน่นเป็นหมู่มวลเดียวกัน
และยิ่งผนวกเข้ากับเบสหนา ๆ ของ JBL แล้ว ใครที่ชอบฟังเพลงย่าน
‘เบสไปจนถึงกลางแหลม’ น่าจะชอบตัวนี้แน่ ๆ ครับ
การใช้ในโหมด Ear-Bud
สำหรับเอียร์บัดแม้เบสจะไม่หนาเท่า เพราะเราไม่ได้เอาจุกยัดลง
ไปในหู แต่ก็แทนที่ด้วยความ ‘ฟังสนุก’ การปล่อยเสียงดูรอบทิศทาง
มากกว่าอินเอียร์ ซาวด์สเตจแน่นอนไม่ต่างกัน แต่เสียงย่านกลางแหลม
– สูง
ดูจะร่าเริงกว่า ในเพลงเดียวกันอย่าง ‘LEFT RIGHT ของศิลปิน XG’
เสียงซินธ์ หรือซาวด์ดีไซน์ต่าง ๆ นี่ระยิบระยับร่าเริงรอบหูเลย
ต่างจากของอินเอียร์ที่เสียงอาจจะไม่วิ่งไปมา แต่แทนที่ด้วยความชัด
– เคลียร์ – แน่นครับ
การตัดเสียงรบกวน
Active Noise Cancelling: การตัดเสียงรบกวนของหูฟังรุ่นนี้
จากการลองใช้งานก็ต้องบอกว่าไม่ได้เงียบสนิทขนาดดับวูบตัด
ทุกเสียงที่จะเข้ามา แต่เหมือนเป็นการคลีนเสียงให้ Noise
ลดลงมากกว่า ยังพอได้ยินเสียงรอบตัวอยู่เนือง ๆ แต่ก็ไม่ได้ดัง
ขนาดที่จะบดบังสิ่งที่อยู่ในหูเราครับ สรุปก็คืออยู่ในระดับที่ใช้งาน
ได้ไม่มีปัญหาครับ
Ambient Aware: โหมดนี้จะเป็นการเปิดรับเสียงรอบข้าง
พร้อม ๆ กับเปิดเสียงในหูเรา ใครที่ไม่ชอบฟีลลิงเวลาเปิด
Noise Cancellation เพราะมันเหมือนหูอื้อ เปิดโหมดนี้ก็จะ
ได้ฟีลเสียบฟังเพลงผ่านหูฟังแบบธรรมชาติครับ
TalkThru: โหมดนี้ใช้สำหรับการพูดคุยกับคนรอบข้างขณะใช้หูฟัง
โดย JBL TUNE FLEX จะเพิ่มเสียงภายนอกให้ดังขึ้น แล้วเบา
เสียงในหูฟังลง ซึ่งจากการทดสอบบอกได้เลยว่าได้ยินเสียง
ข้างนอกชัดเจน พูดคุยรู้เรื่อง พอลองกดเร่งเสียงเพลงในหู
มันดังขึ้นก็จริงแต่ไม่สุด เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการสนทนาของเราครับ
การสนทนา
JBL TUNE FLEX นอกจากฟังได้ทั้งแบบ In-Ear
และ Ear-Bud ยังมีไมโครโฟนในตัวด้วย! โดยไมค์ของรุ่นนี้
จะอยู่ที่หูฟังด้านขวานะครับ ถ้าใครที่ชอบใส่หูฟังข้างเดียว
เวลาคุยโทรศัพท์จะใส่แค่ข้างขวาก็ได้
สนใจอ่านต่อได้ที่นี้ : แนะนำอุปกรณ์ไอที
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น